ศัลยกรรมตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย (Female to Male Top Surgery)

ศัลยกรรมตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย (Female to Male Top Surgery) ทำไมถึงควรเลือกทำการผ่าตัดกับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และให้ยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น? 

FTM Top Surgery :  Why should you select board certified plastic surgeon who has expertise ,aesthetic Sense and anesthetized by anesthetist only.

การศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือตัดนม (Female to Male Top Surgery) ถือว่าเป็นการศัลยกรรมใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทางและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ เพราะการศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกหรือตัดนม (Female to Male Top Surgery) นั้นมีขั้นตอนการผ่าตัดที่ซับซ้อนกว่าการศัลยกรรมตัดเต้านม (Mastectomy) รวมถึงการผ่าตัดจำเป็นต้องใช้เวลามากถึง 3 – 4 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลวิสัญญีแพทย์ในการให้ยาสลบคนไข้เท่านั้น

The surgeon who performs this surgery must have experience and expertise. Because FTM Surgery  is considered a major surgery and consists of more complicated surgical procedures than Mastectomy (Breast Removal)

Moreover, FTM Surgery can take up to 3-4 hours to operate, so anesthesia is necessary to be under control and performed by the anesthesiologist only.

ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือตัดนม (Female to Male Top Surgery)

                ตามที่กล่าวไปเบื้องต้น การผ่าตัดศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือตัดนม (Female to Male Top Surgery) นั้นมีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทางและประสบการณ์ ของศัลยแพทย์อย่างสูง สิ่งสำคัญไม่ใช่เทคนิคการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องอาศัยทักษะในการออกแบบ หรือ The Art Of Plastic Surgery ของศัลยแพทย์อีกด้วย โดยการศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือ ตัดนม (Female to Male Top Surgery) จะคำนึงถึง 4 สิ่งด้วยกันคือ


The Procedures for FTM Surgery

As mentioned above, FTM surgery is complex and requires the expertise and experience of the surgeon. The important thing in this surgery is not only the technique, but also the Art of Plastic Surgery. FTM surgery must consider the following 4 things.

1.       การปรับโครงสร้างลักษณะราวนม

โดยธรรมชาติ ลักษณะหน้าอกและราวนมของผู้หญิงและผู้ชายมีความแต่งต่างกันอย่างชัดเจน สำหรับผู้หญิงรูปทรงและราวนมจะมีลักษณะโค้ง แต่สำหรับผู้ชาย ลักษณะราวนมจะเป็นมุมสี่เหลี่ยม ซึ่งหากคนไข้ผ่าตัดด้วยเทคนิคตัดเต้านม (Mastectomy) เพียงอย่างเดียว จะทำให้หน้าอกมีขนาดเล็กลงหรือแบนราว แต่ลักษณะราวนมยังยังโค้งดังเดิม

1. Structure adjustment and characteristics of the breast base


The natural characteristics of the breasts and the breast base of men and women are markedly different. The base of the woman’s chest is curved, but the male’s base is a square shape. If the client cuts only the breasts out, they will get a flat chest but its base will still be curved as before.

2.       การย้ายตำแหน่งปานนม

เช่นเดียวกับโครงสร้างลักษณะราวนม ตำแหน่งปานนมของผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน โดยสำหรับผู้หญิงจะมีหัวนมที่ตำกว่าผู้ชาย หากไม่มีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งปานนม จะทำให้ปานนมดูต่ำกว่าปกติ และดูผิดธรรมชาติรูปทรงหน้าอกของผู้ชาย

2. Changing the position of areola to be like a male breast 


Breast structure and base attribute, including the nipple positions of women and men are different. For women, the nipples are lower. If the areolas are not moved, after FTM surgery, the nipples will still be low which will look unnatural for a man’s chest. 

3.       การลดขนาดหัวนม

ลักษณะของหัวนมของผู้หญิงและชายนั้นก็มีความแตกต่างกันอยางชัดเจน โดยธรรมชาติแล้ว หัวนมของผู้หญิงจะใหญ่กว่าผู้ชายอย่างชัดเจน หากไม่มีการตกแต่งและลดขนาดหัวนม อาจทำให้หัวนมดูใหญ่มากกว่าปกติ และดูผิดธรรมชาติรูปทรงหน้าอกของผู้ชาย

3. Reducing the size of the nipples


Naturally, the nipples of women are bigger than men. If the surgeon does not adjust and reduce the nipple size, after the surgery the nipples may appear too big and unnatural for a man’s nipple shape.

4.       การลดขนาดแผลผ่าตัด

ในสมัยก่อนแผลผ่าตัดศัลยกรรมตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือ ตัดนม (Female to Male Top Surgery) นั้นมักเป็นรอยแผลชัดเจนเนื่องจากเทคนิคในสมัยก่อนยังไม่มีมากนัก ปัจจุบันเทคนิคการผ่าตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือ ตัดนม (Female to Male Top Surgery) นั้นถึง 6 เทคนิค จึงช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถนำมาประยุกต์ช่วยในการผ่าตัด ทำให้ไม่ต้องเปิดแผลกว้าง คนไข้เจ็บตัวน้อย พักฟื้นได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นหลังผ่าตัด

4. Small incisional tecniques.


In the past, surgical techniques were not as good as today. FTM surgery used to require wide open surgery which was very painful. Currently, there are up to 10 new techniques that no need to open a wide wound. These make the patient less painful, recover faster, and greatly reduce the chance of scarring after surgery.

ความสำคัญของวิสัญญีแพทย์กับการผ่าตัดศัลยกรรมตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือตัดนม (Female to Male Top Surgery)

นอกจากความชำนาญเฉพาะทางและประสบการณ์ของศัลยแพทย์แล้ว การระงับความรู้สึกหรือการให้ยาสลบเองก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำการผ่าตัด เนื่องจากการศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือ ตัดนม (Female to Male Top Surgery) ใช้ระยะเวลาการผ่าตัด 3 – 4 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องมีวิสัญญีแพทย์ควบคุมตลอดการให้ยาสลบทั้งก่อนและหลังผ่าตัด  โดยก่อนผ่าตัด วิสัญญีแพทย์จะมีส่วนร่วมในการประเมินสภาพของผู้ป่วย เพื่อพิจารณาร่วมกับศัลยแพทย์ และให้ความรู้เบื้องต้นกับคนไข้ รวมถึงดูแลคนไช้ทั้งขณะทำการผ่าตัด และหลังออกจากห้องผ่าตัดขณะทำการพักฟื้น  สำหรับเทคนิคการดมยาสลบสำหรับการศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือตัดนม (Female to Male Top Surgery) นิยมใช้ด้วยกัน 2 วิธี

1.       General Anesthesia เป็นเทคนิคการให้ยาระงับความรู้สึกในรูปแบบก๊าซด้วยการหายใจผ่านหน้ากากครอบ ทำให้คนไช้หลับและไม่รู้สึกเจ็บปวด รวมถึงไม่สามารถจำเหตุการณ์ระหว่างการผ่าตัดได้ นอกจากการให้ยาสลบระหว่างผ่าตัดแล้ว วิสัญญีแพทย์จะทำการให้ยาชา และยาระงับการปวดร่วมด้วยเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังฟื้นตัวจากฤทธิ์ยาสลบ

2.       Sedative เป็นเทคนิคการให้ยาระงับความรู้สึกเข้าสู่กระแสเลือดผ่านสายน้ำเกลือ ทำให้คนไข้หลับ และไม่รู้สึกเจ็บปวด รวมถึงไม่สามารถจำเหตุการณ์ระหว่างการผ่าตัดได้ นอกจากการให้ยาสลบระหว่างผ่าตัดแล้ว วิสัญญีแพทย์จะทำการให้ยาชา และยาระงับการปวดร่วมด้วยเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังฟื้นตัวจากฤทธิ์ยาสลบ


สำหรับบทความต่อไปเราจะมาพูดถึงในส่วนของการเตรียมตัวและการดูแลตนเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมตัดหน้าอกแปลงหญิงเป็นชาย หรือตัดนม (Female to Male Top Surgery) กันว่าเป็นอย่างไร สำหรับใครที่มีคำถาม สามารทิ้งไว้ได้ในคอมเมนท์ครับ